การสอบรอบสองนายร้อยตำรวจ

การสอบรอบสองนายร้อยตำรวจ เป็นการตรวจร่างกาย ตรวจสอบประวัติทดสอบบุคลิกภาพ สอบพลศึกษา สอบสัมภาษณ์ และวัดขนาด ร่างกายมีรายละเอียดดังนี้



เห็นถามกันมาเยอะ เรื่องการทุดสอบสมรรถภาพร่างกาย เมื่อสอบผ่านรอบเเรกเเล้ว
ผมจึงได้นำมาฝากเเฟนเพจ สอบ ตำรวจ หรือผู้ที่สนใจ โดยหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้ท่านได้เตรียมตัวสอบได้อย่างมั่นใจ
เพราะข้อสอบหรือการสอบจะยากหรือจะง่ายขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวเเละฝึกซ้อม ^^

๑๐.๒ การสอบรอบสอง เป็นการตรวจร่างกาย ตรวจสอบประวัติทดสอบบุคลิกภาพ สอบพลศึกษา สอบสัมภาษณ์ และวัดขนาด ร่างกายมีรายละเอียดดังนี้

๑๐.๒.๑ การตรวจร่างกายและตรวจสอบประวัติผู้สมัครจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ตามวัน เวลาที่จะประกาศให้ทราบ ผู้ไม่ไปรับการตรวจร่างกายถือว่าสละสิทธิผลการตรวจร่างกาย ถือความเห็นของคณะกรรมการแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานแพทย์ใหญ่ ที่สำนักงาน ตำรวจแห่งชาติแต่งตั้งเป็นเด็ดขาด จะไม่รับพิจารณาผลการตรวจร่างกายที่ผู้สมัครได้รับการตรวจ หรือได้รับใบรับรองผลการตรวจโรคจากที่อื่นมาแสดงนอกจากการตรวจร่างกายแล้วจะมีการฉาย X-RAY ตรวจโลหิต ตรวจปัสสาวะและอื่น ๆ ผู้สมัครจะต้องชำระค่าตรวจ ร่างกายตามที่คณะกรรมการแพทย์กำหนด ในกรณีที่แพทย์ต้องการตรวจพิเศษ นอกเหนือจากการตรวจธรรมดาผู้รับการตรวจจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองในวันตรวจร่างกายจะทำการพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้สมัคร เพื่อตรวจสอบประวัติไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังต้องตรวจสอบไปยังสถานีตำรวจท้องที่ที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่อีกทางหนึ่งด้วย หากผู้ใดมีประวัติเคยถูกลงโทษหรือ ความประพฤติไม่ดีตามที่กำหนดไว้ในเรื่องของคุณสมบัติ จะถูกตัดสิทธิไม่ให้เป็นผู้สอบคัดเลือกได้

คำเตือน
(๑) ในตอนเช้าวันตรวจร่างกาย ไม่ควรรับประทานอาหารหวานจัด เพราะอาจทำให้ตรวจพบน้ำตาลในปัสสาวะ
(๒) ก่อนตรวจร่างกาย ห้ามรับประทานยาแก้ไอทุกชนิด หรือยากระตุ้นกำลัง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความผิดปกติทางหัวใจและหลอดเลือดได้
(๓) ห้ามผู้สมัครใส่ CONTACT - LENS ไปตรวจสายตา

๑๐.๒.๒ การทดสอบบุคลิกภาพ ไม่มีคะแนนถือเกณฑ์ ได้-ตก โดยใช้แบบทดสอบที่คณะอนุกรรมการกำหนด

๑๐.๒.๓ การสอบพลศึกษา เป็นการทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย มีคะแนนเต็มรวม ๕๐ คะแนน คะแนนที่ได้จะให้ลดหลั่นกัน ลงมาตามลำดับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทดสอบในแต่ละประเภทที่ผู้สอบปฏิบัติได้สำเร็จหรือจำนวนครั้งที่ปฏิบัติ สำหรับผู้ที่ได้คะแนนรวมจากการทดสอบ ทุกประเภทต่ำกว่า ๒๐ คะแนนหรือ สอบว่ายน้ำ ๕๐ เมตรหรือวิ่ง ๑,๐๐๐ เมตร ไม่ถึงหรือทำเวลาไม่ได้ตามที่กำหนดถือว่าสอบตกให้คัดออก (คะแนนผล การสอบพลศึกษาจะไม่นำไปรวมกับคะแนนการสอบข้อเขียน)ผู้เข้าสอบจะต้องทำการสอบให้ครบทุกประเภท ถ้าขาดสอบประเภทใดประเภทหนึ่ง ถือว่าสอบตกและจะตัดสิทธิไม่รับเข้าเป็น นักเรียนเตรียมทหาร โดยไม่คำนึงถึงคะแนนการสอบข้อเขียน ประเภทที่สอบและเกณฑ์การให้คะแนนมีดังนี้

(๑) ดึงข้อราวเดี่ยวท่าเตรียม ให้ผู้ทดสอบจับราวเดี่ยวแบบมือคว่ำกำรอบ ปล่อยตัวให้ตรงจนแขน ลำตัว และขาเหยียดตรงท่าปฏิบัติ ให้ผู้ทดสอบทำท่าต่อจากท่าเตรียม โดยงอแขนดึงตัวขึ้นจนคางอยู่เหนือราว แล้วปล่อยตัวลงสู่ท่าเตรียม กระทำติดต่อกันให้ได้จำนวนครั้งที่มากที่สุด ห้ามแกว่งเท้าหรือเตะขา หรือหยุดพักระหว่างครั้งนานเกินกว่า ๓-๔ วินาทีหรือไม่สามารถดึงขึ้นพ้นราวได้ ๒ ครั้ง ติดต่อกัน หรือดึงขึ้นไม่พ้น ให้หยุดทำการทดสอบถ้าทำได้ ๒๐ ครั้ง จะได้คะแนนเต็มถ้าทำได้ ๗ ครั้ง จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง

(๒) ลุกนั่ง ๓๐ วินาทีท่าเตรียม ผู้ทดสอบนอนหงาย เข่าทั้งสองงอเป็นมุมฉาก เท้าทั้งสองวางห่างกันพอประมาณฝ่ามือทั้งสองประสานกัน ที่ท้ายทอย ผู้ช่วยคุกเข่าอยู่บนปลายเท้าของผู้ทดสอบโดยเอามือทั้งสองกดข้อเท้าของผู้ทดสอบไว้ให้ส้นเท้าติดพื้นท่าปฏิบัติ เมื่อได้ยินสัญญาณเริ่ม ให้ผู้ทดสอบลุกขึ้นสู่ท่านั่งพร้อมกับก้มศีรษะลงระหว่างเข่าทั้งสองให้แขนทั้งสอง แตะกับเข่าแล้วกลับลงนอนสู่ท่าเตรียมจนศอกแตะกับพื้น ทำเช่นนี้ติดต่อกันให้ได้จำนวนครั้งมากที่สุดภายใน ๓๐ วินาที ในขณะปฏิบัตินิ้วมือประสาน ที่ท้ายทอยตลอดเวลา และขณะที่ลุกขึ้นสู่ท่านั่งห้ามเอนตัวไปมาถ้าทำได้ ๒๕ ครั้ง จะได้คะแนนเต็มถ้าทำได้ ๑๙ ครั้ง จะได้คะแนนครึ่งหนึ่ง


ดูรายระเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://tutor-home.net/board/index.php?topic=16183.0

สามารถคลิกถูกใจเพื่อติดตามเพจข่าวการสอบงานราชการที่
www.facebook.com/jobthai2